มะกรูด+แชมพูมะกรูด
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Citrus
hystrix DC.
|
ชื่อสามัญ : Leech
lime, Mauritus papeda
|
วงศ์ : Rutaceae
|
ชื่ออื่น : มะขุน มะขูด (ภาคเหนือ) มะขู (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) ส้มกรูด ส้มมั่วผี (ภาคใต้)
|
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ต้นขนาดเล็ก สูง 2-8 เมตร เปลือกต้นเรียบ สีน้ำตาล
มีหนามแหลมตามกิ่งก้าน ใบ
เป็นใบประกอบที่มีใบย่อยใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ ปลายใบและโคนใบมน
ขอบใบเรียบ
แผ่นใบเรียบเป็นมันสีเขียวเข้ม มีต่อมน้ำมันอยู่ตามผิวใบ มีกลิ่นหอมเฉพาะ
ก้านใบมีปีกดูคล้ายใบ ดอก
ออกเป็นช่อตามซอกใบที่ปลายกิ่ง ดอกสีขาว กลีบเลี้ยงมี 5 กลีบ
กลีบดอกมี 5 แฉก โคนกลีบดอกติดกัน
ผล เป็นรูปทรงกลมหรือรูปไข่ โคนผลเรียวเป็นจุก ผิวขรุขระ
มีต่อมน้ำมัน ผลอ่อนสีเขียวแก่
สุกเป็นสีเหลือง มีรสเปรี้ยว เมล็ดกลมรี สีขาว มีหลายเมล็ด
ส่วนที่ใช้ : ราก ใบ ผล ผิวจากผล |
สรรพคุณ :
วิธีและปริมาณที่ใช้ :
น้ำมะกรูดเป็นกรด
จะทำให้ผมสะอาด แล้วล้างผมให้สมุนไพรออกไปให้หมด
หรือใช้มะกรูดเผาไฟ นำมาผ่าซีกใช้สระผม จะรักษาชันนะตุ
ทำให้ผมสะอาดเป็นมัน
|
แชมพูมะกรูดสูตรไร้สาร
วันนี้มาแนะนำทำแชมพูมะกรูดแบบไร้สารเคมี คือ ไม่ใช้หัวแชมพูหรือผงฟอง ส่วนผสมหาง่ายๆ ใช้เพียงมะกรูด 1 กิโลกรัม กับน้ำสะอาด 1 ลิตร
วิธีการทำ
1. นำผลมะกรูููดมาล้างน้ำให้สะอาด แล้วผ่าซีก เอาเมล็ดออก หั่นทั้งเปลือกให้ เป็นชิ้น
2. นำไปต้มกับน้ำในหม้อ ปิดฝา ต้มนาน 15 นาที
3. ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วนำทั้งน้ำและเนื้อ มะกรูดไปปั่นในเครื่องปั่นจนละเอียด
4. นำมากรองด้วยผ้าขาวบาง จะได้น้ำมะกรูดที่ข้นเหนียวเป็นครีม
5. นำน้ำมะกรูดที่ได้ไปนึ่ง หรือ ตมไฟอ่อน พอเดือดปุดๆ ยกลงทิ้งไว้ ให้เย็น นำไปบรรจุขวดที่มีฝาปิด เก็บได้นาน 3-6 เดือน
1. นำผลมะกรูููดมาล้างน้ำให้สะอาด แล้วผ่าซีก เอาเมล็ดออก หั่นทั้งเปลือกให้ เป็นชิ้น
2. นำไปต้มกับน้ำในหม้อ ปิดฝา ต้มนาน 15 นาที
3. ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วนำทั้งน้ำและเนื้อ มะกรูดไปปั่นในเครื่องปั่นจนละเอียด
4. นำมากรองด้วยผ้าขาวบาง จะได้น้ำมะกรูดที่ข้นเหนียวเป็นครีม
5. นำน้ำมะกรูดที่ได้ไปนึ่ง หรือ ตมไฟอ่อน พอเดือดปุดๆ ยกลงทิ้งไว้ ให้เย็น นำไปบรรจุขวดที่มีฝาปิด เก็บได้นาน 3-6 เดือน
วิธีใช้
ใช้สระผมแทนแชมพูทั่วไป เวลาสระผมจะไม่มีฟอง แต่จะทำให้ผมสะอาด นุ่มสลวย ผมลื่นหวีง่าย ผมจะดกดำ เงางาม
ใช้สระผมแทนแชมพูทั่วไป เวลาสระผมจะไม่มีฟอง แต่จะทำให้ผมสะอาด นุ่มสลวย ผมลื่นหวีง่าย ผมจะดกดำ เงางาม
เมื่อนำไปลองใช้ดูแล้วเห็นผลเป็นอย่างไร ถ้าจะกรุณาเขียนมาเล่าสู่กันฟังก็จะเป็นประโยชน์สำหรับคนอื่นๆต่อไปครับ
ที่มา : คู่มือพึ่งตนเอง 37 หลักสูตรเพื่อสุขภาพและความงาม
และวารสารเกษตรกรรมธรรมชาติ ศูนย์สื่อเพื่อการพัฒนา
และวารสารเกษตรกรรมธรรมชาติ ศูนย์สื่อเพื่อการพัฒนา