ประวัติ ประเทศเกาหลีเหนือ ลักษณะทางกายภาพ การเมือง การปกครอง วัฒนธรรมต่างๆของประเทศเกาหลีเหนือ

  

ประเทศเกาหลีเหนือ

    https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/3/3c/Emblem_of_North_Korea.svg/330px-Emblem_of_North_Korea.svg.png

        สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (อังกฤษ: Democratic People's Republic of Korea: DPRK; ฮันกึล: 조선민주주의인민공화국; ฮันจา: 朝鮮民主主義人民共和國) หรือชื่อโดยทั่วไปว่า เกาหลีเหนือ (อังกฤษ: North Korea; ฮันกึล: 북한; ฮันจา: 北韓) เป็นประเทศในเอเชียตะวันออก กินพื้นที่ครึ่งเหนือของคาบสมุทรเกาหลี เมืองหลวงและนครใหญ่สุด คือ เปียงยาง เขตปลอดทหารเกาหลีเป็นเขตกันชนระหว่างประเทศเกาหลีใต้กับเกาหลีเหนือ แม่น้ำอัมนกหรือยาลู่ และตูเมนเป็นพรมแดนระหว่างประเทศจีนกับเกาหลีเหนือ แม่น้ำตูเมนส่วนที่ห่างไปทางตะวันออกเฉียงเหนือเป็นพรมแดนกับประเทศรัสเซีย

       คาบสมุทรเกาหลีถูกจักรวรรดิเกาหลีปกครองเรื่อยมากระทั่งถูกผนวกเข้ากับญี่ปุ่นหลังสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น พ.ศ. 2448 และถูกแบ่งเป็นเขตยึดครองโซเวียตและอเมริกาใน พ.ศ. 2488 หลังสงครามโลกครั้งที่สองยุติ เกาหลีเหนือปฏิเสธจะเข้าร่วมการเลือกตั้งที่สหประชาชาติอำนวยการ ซึ่งจัดที่กรุงโซลใน พ.ศ. 2491 และนำไปสู่การสถาปนารัฐบาลเกาหลีแยกในเขตยึดครองทั้งสอง ทั้งเกาหลีเหนือและใต้ต่างอ้างอธิปไตยเหนือคาบสมุทรเกาหลีทั้งหมด และนำไปสู่สงครามเกาหลีใน พ.ศ. 2493 ความตกลงสงบศึกชั่วคราว พ.ศ. 2496 ยุติการสู้รบ อย่างไรก็ดี ทั้งสองยังถือว่าอยู่ในภาวะสงครามต่อกันและกันอย่างเป็นทางการ เนื่องจากยังไม่มีการลงนามสนธิสัญญาสันติภาพแต่อย่างใด ทั้งสองรัฐได้รับการยอมรับเข้าสู่สหประชาชาติใน พ.ศ. 2534

     เกาหลีเหนือเป็นรัฐพรรคการเมืองเดียวภายใต้สหแนวร่วมนำโดยพรรคแรงงานเกาหลี รัฐบาลของประเทศเจริญตามอุดมการณ์จูเช(Juche) ว่าด้วยการพึ่งพาตนเอง พัฒนาโดยประธานาธิบดีของประเทศ คิม อิล-ซ็อง หลังเขาถึงแก่อสัญกรรม คิม อิล-ซ็องถูกประกาศให้เป็นประธานาธิบดีตลอดกาลของประเทศ จูเชจึงกลายมาเป็นอุดมการณ์ของรัฐอย่างเป็นทางการ เมื่อประเทศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ใน พ.ศ. 2515 แม้คิม อิล-ซ็องจะใช้ร่างเป็นนโยบายอย่างน้อยตั้งแต่ พ.ศ. 2498 หลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียตและภัยพิบัติทางธรรมชาติหลายครั้ง ได้เกิดทุพภิกขภัยขึ้นในประเทศ เป็นเหตุให้มีประชาชนเสียชีวิตถึงระหว่าง 9 แสนถึง 2 ล้านคน  โดยเผชิญกับสถานการณ์เหล่านี้ ผู้นำ คิม จ็อง-อิลประกาศใช้นโยบายซอนกุน (Songun) หรือ "ทหารมาก่อน" เพื่อเสริมสร้างประเทศและรัฐบาล

    องค์การต่างชาติหลายแห่งอธิบายเกาหลีเหนือว่าเป็นเผด็จการลัทธิสตาลินแบบเบ็ดเสร็จ โดยมีลัทธิบูชาบุคคลประณีตรอบครอบครัวคิมและเป็นหนึ่งในประเทศที่มีบันทึกสิทธิมนุษยชนต่ำที่สุดในโลก รัฐบาลเกาหลีเหนือปฏิเสธความเชื่อมโยงนี้ เกาหลีเหนือเป็นชาติติดอาวุธมากที่สุดของโลก โดยมีกำลังพลประจำการ สำรองและกึ่งทหารรวม 9,495,000 นาย ทั้งเป็นรัฐที่มีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในครอบครองและมีโครงการอวกาศที่ยังดำเนินอยู่


ลักษณะทางภูมิศาสตร์

     คาบสมุทรเกาหลีทอดตัวไปทางทิศใต้ทางด้านตะวันออกของทวีปเอเชีย มีความยาว 1,020 กิโลเมตร และกว้าง 300 กิโลเมตร ณ จุดที่แคบที่สุดของคาบสมุทรเกาหลี พื้นที่ 70% ของประเทศเป็นเทือกเขา จึงจัดเป็นประเทศที่มีภูมิประเทศเป็นเทือกเขามากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

      ความเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของแผ่นดินที่เป็นหินแกรนิตและหินปูน ทำให้เกิดภูมิประเทศที่สวยงาม ประกอบด้วยเทือกเขาและหุบเขา เทือกเขาตลอดชายฝั่งด้านตะวันออกสูงชันและทอดตัวลงสู่ทะเลตะวันออก ในขณะที่ชายฝั่งทางด้านใต้และตะวันตก เทือกเขาค่อย ๆ ลาดลงต่ำสู่ที่ราบชายฝั่ง ซึ่งเป็นแหล่งเกษตรกรรมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเกาหลี โดยเฉพาะในด้านการผลิตข้าว

     คาบสมุทรเกาหลีถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ณ เส้นขนานที่ 38 เหนือ คือ สาธารณรัฐเกาหลีอยู่ทางตอนใต้ และเกาหลีเหนือ โดยถูกคั่นกลางโดยเขตปลอดทหาร


การเมืองการปกครอง

     เกาหลีเหนือปกครองโดยระบอบคอมมิวนิสต์  เกาหลีเหนือเป็นรัฐคอมมิวนิสต์ ภายใต้การปกครองโดยพรรคแรงงานแห่งเกาหลี มีประธานคณะกรรมาธิการป้องกันประเทศเป็นผู้นำสูงสุดของประเทศ และ       มีคิม อิล-ซ็องและผู้นำสูงสุดคนปัจจุบันคือนายคิม จ็อง-อึน เป็นผู้นำประเทศ

     เกาหลีเหนือปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ตามแนวทางของอดีตสหภาพโซเวียต ระบบการเมืองของเกาหลีเหนือตั้งอยู่บนพื้นฐานของลัทธิจูเช่ (Juche) ซึ่งอดีตประธานาธิบดี คิม อิล-ซ็อง ได้บัญญัติขึ้น         เมื่อ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2498 ประกอบด้วยหลักการสำคัญ คือเอกราชทางการเมืองอย่างแท้จริง การพึ่งพาตนเองทางเศรษฐกิจ และการป้องกันประเทศด้วยตนเอง

      เกาหลีเหนือมีการปกครองระบบพรรคเดียวมาโดยตลอด นับตั้งแต่มีการก่อตั้งประเทศเมื่อ 9 กันยายน พ.ศ. 2491 โดยมีพรรคแรงงานแห่งเกาหลี (Workers Party of Korea) เป็นองค์กรที่มีบทบาทและอิทธิพล สูงสุดในทางการเมืองที่คอยควบคุมหน่วยงานของรัฐบาลในการบริหารประเทศ ตามที่รัฐธรรมนูญปกครองประเทศของเกาหลีเหนือบัญญัติไว้ว่า อำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศเป็นของสมัชชาประชาชนสูงสุด    ซึ่งมีสมาชิก 687 คน มาจากการเลือกตั้งและมีวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปี

      สถานการณ์การเมืองภายในของเกาหลีเหนือได้เข้าสู่ความไม่แน่นอน ภายหลังจากการถึงแก่อสัญกรรมของประธานาธิบดีคิม อิล-ซ็อง ในปี พ.ศ. 2537 ซึ่งทำให้ประชาคมระหว่างประเทศกังวลว่าเกาหลีเหนือจะประสบปัญหาวุ่นวาย อย่างไรก็ตาม การเข้ารับตำแหน่งผู้นำประเทศของนายคิม จ็อง-อิล ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2541 แสดงให้เห็นว่านายคิม จ็อง-อิล สามารถกุมอำนาจการปกครองประเทศได้อย่างเบ็ดเสร็จ โดยนายคิม   จ็อง-อิล ก็ได้มีท่าทีที่ต้องการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศในโลกเสรีมากขึ้น คาดว่าเพราะต้องการได้รับเงินตราต่างประเทศ เพื่อนำมาปรับปรุงและฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจของประเทศ

เมื่อ 5 กันยายน 2541 การประชุมสภาประชาชนสูงสุดครั้งที่ 10 มีมติให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยระบุว่า

  • นายคิม อิล-ซ็อง เป็นผู้ก่อตั้งเกาหลีเหนือ และเป็นบรรพบุรุษแห่งสังคมนิยมของเกาหลี ดังนั้น       จึงยกย่องให้เป็นประธานาธิบดีตลอดกาล (Eternal President)

  • ยกเลิกระบบประธานาธิบดีเป็นประมุข ให้ประธานคณะกรรมการป้องกันประเทศ (Chairman of the National Defense Commission) เป็นตำแหน่งสูงสุดของประเทศ โดยมีอำนาจปกครอง    ด้านการเมือง การทหาร และเศรษฐกิจ

  • ให้สภาบริหารสูงสุด (Presidium) ของสภาประชาชนสูงสุดเกาหลีเหนือ (Supreme People's Assembly) เป็นองค์กรนิติบัญญัติสูงสุดของประเทศ

อนึ่ง สภาประชาชนสูงสุดมีมติแต่งตั้งนายคิม ย็อง-นัม ให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาบริหารสูงสุดของสภาประชาชนสูงสุดเกาหลีเหนือ รับผิดชอบงานด้านการดำเนินความสัมพันธ์ทางการทูตกับต่างประเทศ ได้แก่   ทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเรื่องพิธีการทูต การให้และยกเลิกสัตยาบัน การแต่งตั้งและเรียกกลับผู้แทนทางการทูตในต่างประเทศ การรับสาส์นตราตั้งทูตต่างประเทศ การเป็นผู้แทนประเทศพบบุคคลสำคัญจากต่างประเทศ   ที่ไปเยือนเกาหลีเหนือ รวมทั้งเป็นผู้แทนประเทศเดินทางไปเยือนประเทศอื่นๆ เมื่อ 3 กันยายน 2546 ได้มีการประชุมสภาประชาชนสูงสุดของเกาหลีเหนือ โดยที่ประชุมฯ มีมติดังนี้

  1. นาย คิม จ็อง-อิล ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกลาโหม (Chairman of the National Defense Commission)

  2. นาย คิม ย็อง-นัม ดำรงตำแหน่งประธานสภาบริหารสูงสุดของสภาประชาชนสูงสุด (President of the Presidium of the DPRK Supreme People's Assembly)

  3. นาย ปาร์ก ปงจู รมว.อุตสาหกรรมเคมี ดำรงตำแหน่ง นรม. สืบแทนนาย Hong Song Nam

  4. นาย แพ็ก นัมซุน ดำรงตำแหน่ง รมว.กต.ต่อไปทั้งนี้ นรม.คนใหม่มีนโยบายส่งเสริมการพัฒนาด้านเศรษฐกิจของประเทศให้มากยิ่งขึ้น สนับสนุนด้านการทหารอย่างเต็มที่ และส่งเสริมการรวมประเทศเกาหลีทั้งสอง

     อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2554 นายคิม จ็อง-อิล ได้ถึงแก่อสัญกรรมขณะอยู่บนขบวนรถไฟเตรียมเดินทางไปตรวจพื้นที่ภาคสนาม จากอาการกล้ามเนื้อหัวใจตาย และหัวใจวายในที่สุด ทำให้นาย       คิม จอง อึน บุตรชายคนที่ 3 จะขึ้นเป็นผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือในฐานะทายาททางการเมืองต่อไป


เศรษฐกิจ

     เกาหลีเหนือมีการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจในลักษณะวางแผนเศรษฐกิจจากส่วนกลาง โดยเกาหลีเหนือได้ยึดถืออุดมการณ์ตามลัทธิชูเช (Juche) ของพรรคแรงงานเกาหลีมาเป็นแนวทางในการพัฒนาประเทศ โดยเน้นความเป็นเอกภาพ การพึ่งพาตนเอง เกียรติภูมิของชาติ และการสร้างความเจริญให้กับประเทศ พร้อมกับประกาศ "ขบวนการม้าบิน" (Chollima Movement) ในปี พ.ศ. 2501 ที่กระตุ้นให้ประชาชนขยันขันแข็งในการทำงาน เร่งเพิ่มผลผลิตโดยเฉพาะทางด้านการเกษตร

      เกาหลีเหนือมีระบบการค้าผูกขาดโดยภาครัฐ ทั้งการค้าในประเทศและต่างประเทศ โดยกระทรวงพาณิชย์ควบคุมการค้าภายในประเทศ และกระทรวงการค้าต่างประเทศควบคุมการค้าระหว่างประเทศ โดยได้จัดตั้งบริษัทการค้าของรัฐหรือสหกรณ์การค้าของรัฐ เป็นผู้ดำเนินการเกี่ยวกับการค้า รัฐบาลเกาหลีเหนือพยายามขยายการค้ากับต่างประเทศให้มากขึ้น โดยได้เน้นการผลิตสินค้าที่ตลาดต่างประเทศมีความต้องการเพิ่มขึ้น พยายามปรับปรุงความน่าเชื่อถือของเกาหลีเหนือ ส่งเสริมสินค้าออกทั้งแบบ merchant trade และ barter trade ส่งเสริมการร่วมลงทุนกับต่างประเทศ นอกจากนี้ เกาหลีเหนือได้จัดตั้งคณะกรรมการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (Commission for the Promotion of Foreign Trade) เพื่อสนับสนุนการค้ากับประเทศที่ยังไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับเกาหลีเหนือ

      ในปี 2538 และ 2539 ได้ประสบอุทกภัยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 10 ปี ซึ่งได้สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่เกษตรกรรมและโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศ ต่อมาในปี 2540 เกาหลีเหนือประสบกับภาวะภัยแล้งและพายุในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งได้สร้างความเสียหายให้พื้นที่เพาะปลูกข้าวทางฝั่งตะวันตกของประเทศ ทำให้ไม่สามารถผลิตอาหารให้เพียงพอกับความต้องการภายในประเทศ ก่อให้เกิดภาวะขาดแคลนอาหาร ประชาชนเจ็บป่วยและล้มตายเป็นจำนวนมาก รัฐบาลเกาหลีเหนือจึงได้เริ่มขอรับความช่วยเหลือจากประชาคมโลกมาตั้งแต่ปี 2538 ทั้งนี้ ก่อนการล่มสลายของคอมมิวนิสต์ในปี 2532-2533 ประเทศที่เคยเป็น   คู่ค้าที่สำคัญของเกาหลีเหนือคือ สหภาพโซเวียตและกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก แต่หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต มูลค่าการค้ากับประเทศรัสเซียได้ลดน้อยลงอย่างมาก และประเทศยุโรปตะวันออกก็ไม่มีกำลังซื้อ นอกจากนี้ สินค้าส่งออกของเกาหลีเหนือ ก็ไม่สามารถแข่งขันกับสินค้าประเภทเดียวกันจากประเทศอื่น ๆ ทั้งทางด้านคุณภาพและราคาได้ รวมทั้ง เกาหลีเหนือยังประสบปัญหาการขาดเแคลนเงินตราต่างประเทศ เพื่อนำไปซื้อวัตถุดิบต่าง ๆ เพื่อนำไปใช้ในการผลิตสินค้าอีกด้วย

รัฐบาลเกาหลีเหนือได้พยายามหาเงินตราจากต่างประเทศ โดยไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ ดังนี้

  • ในปี 2534 ได้พยายามทดลองเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษในลักษณะเดียวกับจีน บริเวณใกล้พรมแดนจีนและรัสเซีย เรียกว่า Rajin-Sonbong Free Trade Zone (FTZ) เพื่อเป็นเขตผ่อนผันให้กับนักลงทุนต่างชาติผ่านเข้าออกได้ โดยไม่ต้องขอรับการตรวจลงตรา มีการลดภาษีศุลกากร และมีสิ่งจูงใจอื่น ๆ เพื่อดึงดูดให้นักลงทุนต่างชาติเข้าไปลงทุนในเขตดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เขตเศรษฐกิจพิเศษดังกล่าวได้รับความสนใจน้อยมาก เนื่องจากค่าจ้างแรงงานที่สูง การแทรกแซงจากเจ้าหน้าที่ของรัฐในการดำเนินงาน นอกจากนี้ นักลงทุนต่างชาติ ยังไม่ค่อยแน่ใจในสถานการณ์ทางการเมืองภายในเกาหลีเหนือ ตลอดจนปัญหาเรื่องนโยบายคุ้มครองการลงทุน รวมทั้งความไม่พร้อมในด้านโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ อาทิ สนามบิน ท่าเรือ และการขาดพื้นฐานทางอุตสาหกรรม

  • ในปี 2541 ได้เปิดให้บริษัทฮุนไดของเกาหลีใต้เข้าไปลงทุนโดยการนำนักท่องเที่ยวเข้าชมบริเวณเทือกเขา Kumgang โดยบริษัทฮุนไดต้องจ่ายค่าสัมปทานให้กับรัฐบาลเกาหลีเหนือ เดือนละ 12 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา แต่ปรากฏว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้น้อยเกินคาด คือน้อยกว่า 4,000 คนต่อเดือนทำให้บริษัทฮุนไดขาดทุนอย่างนัก จนเมื่อเดือน มกราคม 2545 รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่โครงการดังกล่าว เพราะเห็นว่าเป็นโครงการที่ส่งเสริมนโยบายปรองดองระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้

  • เมื่อเดือนกันยายน 2545 เกาหลีเหนือได้ประกาศให้เมืองชินอึยจู ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ติดชายแดนจีนตรงข้ามเมืองตานตงของมณฑลเหลียวหนิงมีแม่น้ำยาลูเป็นเส้นกั้นพรมแดนให้เป็นเขตบริหารพิเศษขึ้นตรงต่อรัฐบาลกลางโดยสามารถบัญญัติกฎหมายมีอำนาจบริหารและอำนาจตุลาการ

  • นับตั้งแต่การประชุมสุดยอดผู้นำเกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้ ระหว่างนายคิม จอง-อิล ผู้นำเกาหลีเหนือกับนายคิม แด-จุง อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ในปี 2543 เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ได้มีความพยายามร่วมกันในการส่งเสริมโครงการนิคมอุตสาหกรรมแกซอง (Gaeseong Industrial Complex- GIC)

     อย่างไรก็ตาม การทดลองขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การลงทุนและการค้าต่างประเทศชะงักงัน โดยเฉพาะผลกระทบจากข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ    ที่ 1718 (2006) หากปัญหาต่างๆ ดังกล่าวได้รับการแก้ไข รวมทั้งมีการปรับเปลี่ยนมาตรฐานทางการเงินให้เป็นสากลมากขึ้น ก็อาจทำให้การลงทุนในเขตเศรษฐกิจดังกล่าวได้รับความสนใจจากต่างประเทศมากขึ้นกว่าในปัจจุบัน

     เมื่อ 2 สิงหาคม 2545 เกาหลีเหนือได้เริ่มทดลองมาตรการปฏิรูประบบเศรษฐกิจ โดยลดการปันส่วนอาหาร และให้ประชาชนซื้ออาหารจากตลาดมากขึ้นแทน และเพิ่มค่าแรงเพื่อให้ประชาชนมีกำลังซื้ออาหารจากตลาดเอง รัฐบาลเกาหลีเหนือจะใช้ family production system ในพื้นที่เกษตรกรรมซึ่งคล้ายกับระบบที่จีนใช้เมื่อเริ่มการปฏิรูปเศรษฐกิจใหม่ ๆ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรเพิ่มผลผลิต รัฐบาลเกาหลีเหนือจะลดการซื้อธัญพืชสำหรับการปันส่วนของรัฐ และจะปล่อยให้เกษตรกรสามารถขายพืชผลได้เองมากขึ้น นอกจากนี้ รัฐบาลเกาหลีเหนือจะลดค่าเงินของเกาหลีเหนือจาก 2.2 วอนต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ เป็น 200 วอนต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับตัวเข้าสู่ระบบตลาดต่อไปในอนาคต

     การปฏิรูประบบเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือมีความคืบหน้าที่ดีขึ้น ถือว่าประสบผลสำเร็จในระดับหนึ่ง โดยเกาหลีเหนือสามารถรับมือกับปัญหาอุปสรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการปฏิรูปได้ มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง มีการปรับปรุงการจัดสรรอุปทานพลังงานเพื่อรองรับความต้องการได้ดีขึ้น มีความพยายามเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมากขึ้นทั้งในภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรม และการค้าระหว่างประเทศ ในปี 2546 ภาคเกษตรมีผลผลิตเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 4.156 ล้านตันจากความต้องการบริโภค 5.1 ล้านตัน ภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 และภาคการค้าระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 2,390 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นมูลค่าสูงสุดในรอบ 11 ปี

     ปัจจุบัน รัฐบาลเกาหลีเหนือได้ให้อิสระมากขึ้นแก่ประชาชน รัฐวิสาหกิจ และบริษัทต่างๆ ในการเลือกประกอบอาชีพ การบริหารจัดการ การจัดทำข้อตกลงการค้าได้ นอกจากนี้ รัฐบาลยังจัดตั้งตลาดซื้อขายสินค้าเพิ่มอีกกว่า 300 แห่ง เพื่อรองรับการขยายตัวของการเข้าไปมีส่วนร่วมของประชาชนในระบบเศรษฐกิจการตลาด ในขณะที่สตรีเกาหลีเหนือก็เข้าไปมีบทบาทในการหารายได้เลี้ยงครอบครัวเพิ่มขึ้นด้วย

     ล่าสุด จากการประชุมสภาประชาชนสูงสุด เมื่อ 11 เมษายน 2549 นโยบายทางเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือจะเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจ และการพัฒนาวิทยาศาตร์และเทคโนโลยี อันเป็นยุทธศาสตร์ของเกาหลีเหนือในการเพิ่มความสามารถในการผลิตและเสริมสร้างระบบเศรษฐกิจที่พึ่งพาตนเองได้ตามหลักจูเช่ และเชื่อว่าเกาหลีเหนือจะเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีสูง และอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2541 เป็นต้นมา เกาหลีเหนือประกาศว่าการสร้าง ”ประเทศที่เข้มแข็งและมั่งคั่ง” (Kangsong Taeguk-) จะต้องตั้งอยู่บนเสาหลักสำคัญ 3 ประการคือ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อุดมการณ์ และการทหาร


สกุลเงินของเกาหลีเหนือ 

     ปลายสงครามโลกครั้งที่2 สหภาพโซเวียตและสหรัฐอเมริกาไม่สามารถทำการ  ตกลงกันได้เรื่องการรวมเกาหลี ต่างฝ่ายต่างประกาศสนับสนุนดินแดนในส่วนที่ตัวเองยึดครอง โดยเกาหลีใต้ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกา ได้กำหนดชื่อเรียกประเทศว่า “สาธารณรัฐเกาหลี”  ขณะที่เกาหลีเหนือที่ได้รับการสนับสนุนจากสหภาพโซเวียต ได้มีชื่อเรียกประเทศว่า “สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี” เกาหลีเหนือนั้นหลังจากถูกประกาศแบ่งแยกออกมาจากเกาหลีใต้แล้ว ในช่วงเวลานั้นยังคงมีการใช้สกุลเงิน “เยน (Yen-엔)” อยู่อีกเป็นเวลา 2 ปี ในระหว่างนั้นสหภาพโซเวียตได้มีการออกเงินธนบัตรออกมาใช้ชั่วคราวโดยกำหนดให้สกุลเงิน “วอน (won -원)” เป็นสกุลเงินหลักแบบชั่วคราวไปก่อน จนกระทั่งมีธนาคารกลางของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี ที่ถูกจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 1947 ได้ออกและกำหนดสกุลเงินใหม่มาใช้ โดยเลือกใช้สกุลเงิน “วอน (won -원)” เป็นสกุลเงินหลักต่อไปและประกาศใช้ตั้งแต่ปี ค.ศ.1947 จนถึงปัจจุบัน  สกุลเงินวอนของเกาหลีเหนือมีชื่อเต็มเป็นภาษาเกาหลีว่า “โชซอนมินจูจูอีอินมินกงฮวากุก วอน (조선민주주의인민공화국 원)” ใช้สัญลักษณ์ และตัวย่อสกุลเงินว่า KPW สกุลเงินอื่นๆที่ใช้ควบคู่กันก็ยังคงเป็น “ชอน (전)” โดยมีอัตรา 1 วอนเท่ากับ 100 ชอนแบ่งเป็น 3ยุคสมัยด้วยกัน


9nokwon001-tile

รูปภาพ เงินธนบัตรชั่วคราวของเกาหลีเหนือ (ค.ศ.1945) ที่ออกโดยสหภาพโซเวียต


  1. สกุลเงินวอนแบบเก่า (ค.ศ.1947-1959) 

01-tile

รูปภาพ เงินธนบัตรเกาหลีเหนือในปี ค.ศ.1947


  1. สกุลเงินวอนแบบใหม่ (ค.ศ.1959-2009) ในช่วงเวลานี้มีการเปลี่ยนแปลงเงินธนบัตรและเงินเหรียญบ่อยครั้งเริ่มตั้งแต่ในปี ค.ศ.1959 

north022

รูปภาพ  เงินธนบัตรเกาหลีเหนือในปี ค.ศ.1959

KPW_coin_series

รูปภาพ เงินเหรียญเกาหลีเหนือ

kpw-5-north-korean-wons-1-vert-horz

รูปภาพ เงินธนบัตรเกาหลีเหนือในปี ค.ศ.1992



  1. สกุลเงินวอนในปัจจุบัน (ค.ศ.2009-ปัจจุบัน)  

5a-vert-horz

รูปภาพ เงินธนบัตรเกาหลีเหนือที่มีใช้อยู่ในปัจจุบัน



ประชากร

เกาหลีเหนือมีประชากรจำนวน 25.37 ล้านคน (พ.ศ. 2559)


เชื้อชาติ

ส่วนใหญ่เป็นชาวเกาหลี แต่ก็มีชาวจีน 162,000 คน ชาวมองโกล 6,900 คน ชาวอังกฤษ 5,500 คน   ชาวฝรั่งเศส 5,000 คน ชาวรัสเซีย 4,600 คนและชาวญี่ปุ่นอาศัยอยู่


ศาสนา

https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/3/35/Myogilsang-naegeumgang.jpg/250px-Myogilsang-naegeumgang.jpg

พระพุทธรูปแกะสลักบนภูเขาคุมกัง


     ในอดีตดินแดนเกาหลีเหนืออบอวลไปด้วยวัฒนธรรมของศาสนาพุทธ และลัทธิขงจื๊อ แม้ภายหลังจะมีการเข้ามาของศาสนาอื่นอย่างศาสนาคริสต์ และลัทธิชอนโดเกียว แต่ทุกศาสนาจะต้องได้รับการอนุญาตก่อน   ส่วนใหญ่ประชากรของเกาหลีเหนือจะยินดีที่จะไม่นับถือศาสนาใด ส่วนใหญ่ศาสนาจะถูกให้นิยามอยู่เสมอว่าเป็นอคติต่อสังคม และวัฒนธรรมทางศาสนาดั้งเดิมอย่างศาสนาพุทธ และลัทธิขงจื๊อจึงได้รับผลกระทบจากการดำเนินชีวิตในปัจจุบันของชาวเกาหลีเหนือ

     แต่อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ที่นับถือศาสนาพุทธในเกาหลีเหนือได้รับการจัดการที่ดีกว่ากลุ่มที่นับถือศาสนาอื่นในประเทศ โดยเฉพาะศาสนาคริสต์ที่มักจะถูกรังแกโดยทางการ ในขณะที่ศาสนาพุทธได้รับทุนจากรัฐบาลไปส่งเสริมศาสนา เนื่องจากศาสนาพุทธมีบทบาทสำคัญต่อวัฒนธรรมของเกาหลีเป็นอย่างมาก

     จากการเฝ้าดูขององค์กรสิทธิมนุษยชน พบว่าเกาหลีเหนือได้ให้อิสระต่อกิจกรรมทางศาสนา ขณะที่รัฐบาลจะอุปถัมภ์กลุ่มศาสนาเท่านั้น สร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับอิสระการนับถือศาสนาของเกาหลีเหนือมีการประมาณการกลุ่มผู้นับถือศาสนาต่างๆจากหน่วยข่าวกรองตามสภาพของเกาหลีเหนือในปัจจุบันดังนี้

  • ไม่นับถือศาสนา ประมาณ 15,460,000 คน (64.31% ของประชากร โดยส่วนใหญ่นับถือตามปรัชญาลัทธิจูเช)

  • ผู้ศรัทธาตามขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิม ประมาณ 3,846,000 คน (16% ของประชากร)

  • ลัทธิชอนโดเกียว ประมาณ 3,245,000 คน (13.50% ของประชากร)

  • ศาสนาพุทธ ประมาณ 1,082,000 คน (4.50% ของประชากร)

  • ศาสนาคริสต์ ประมาณ 406,000 คน (1.69% ของประชากร)

     ในกรุงเปียงยาง ถือเป็นศูนย์กลางกิจกรรมทางศาสนาคริสต์ของเกาหลีเหนือก่อนสงครามเกาหลี ปัจจุบันมีโบสถ์เพียงสี่โบสถ์ที่ได้รับอนุญาตให้เปิดทำศาสนกิจได้ เพื่อเป็นจุดเด่นแสดงให้ชาวต่างชาติเห็นเท่านั้น ตัวเลขอย่างเป็นทางการของชาวคริสต์ในเกาหลีเหนือ ได้แก่ นิกายโปรเตสแตนต์มีจำนวนมากที่สุด 10,000 รองลงมาคือนิกายโรมันคาทอลิก 4,000 คน

     ตามที่องค์กร Open Door ซึ่งเป็นองค์กรที่ให้ความช่วยเหลือแก่ชาวคริสต์ ได้ให้ข้อมูลว่าทางการเกาหลีเหนือได้ทำการกลั่นแกล้งชาวคริสต์มากจนน่าแปลก องค์กรเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน เช่น องค์กรนิรโทษกรรมสากล ได้พุ่งความสนใจเกี่ยวกับการก่อกวนทางศาสนาในเกาหลีเหนือ


ภาษา

ภาษาเกาหลี (한국어 หรือ 조선말,) เป็นภาษาที่ส่วนใหญ่พูดใน ประเทศเกาหลีใต้ และ       ประเทศเกาหลีเหนือ ซึ่งใช้เป็นภาษาราชการ


วัฒนธรรมด้านการแต่งกาย

ชุดประจำชาติของเกาหลีเหนือจะไม่ต่างจากเกาหลีใต้เลยเพียงแต่ว่าชุดฮันบกของเกาหลีเหนือจะถูกปรับให้บางและวิธีการใส่นั้นจะถูกทำให้ง่ายขึ้นเพราะผู้หญิงชาวเกาหลีเหนือนั้นใส่ชุดฮันบกเป็นปกติ เป็นเหมือนกับชุดสุภาพที่เราๆใส่กันในทุกๆวัน แตกต่างจากเกาหลีใต้ที่มีวิวัฒนาการของแฟชั่นที่ล้ำหน้าทำให้ใส่เพียงแต่ในโอกาสสำคัญเท่านั้น


         


วัฒนธรรมด้านความเชื่อ

     ประธานาธิบดี คิมอิลซอง ได้ก่อกำเนิดลัทธิ “จูเชหรือจูเช่”ซึ่งเป็นเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างของประเทศนี้  เป็นทั้งศาสนา เป็นอุดมการณ์ทางการเมือง เป็นวัฒนธรรม เป็นวิถีชีวิต โดยจูเช่ (Juche 主体) แปลว่า     ส่วนสำคัญ หลักสำคัญ หรือ Main Stream เป็นปรัชญาทางการเมืองที่ท่านคิมอิลซองใช้เป็นแนวทางในการบริหารประเทศ โดยแนวคิดนี้จะเน้นถึงการมีจุดยืนที่เป็นอิสระ มีจิตวิญญาณที่ที่เน้นการพึ่งตนเองเป็นสำคัญ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ เกาหลีเหนือจะไม่พึ่งพาประเทศอื่น ปฏิเสธระบบทุนนิยม 

     นอกจากนี้ปัญญาชนชาวเกาหลีเหนือจะต้องรู้เรื่องของประเทศตนเองอย่างลึกซึ้ง ไม่เป็นทาสความคิดเดิม (ควรมีความคิดสร้างสรรค์ และริเริ่มนวัตกรรม) ไม่พึ่งพาความคิดจากภายนอก อิสระจากการครอบงำ เกาหลีเหนือจะเจริญได้ต้องติดอาวุธทางปัญญาตามแนวปรัชญาจูเช่ให้กับประชาชน และประชาชนจะต้องมุ่งมั่นศึกษาเล่าเรียนอย่างจริงจัง ซึ่งปรัชญานี้จะยกย่องว่าการที่ประเทศเจริญรุดหน้าไปได้ก็ด้วยอัจฉริยภาพของท่านคิมอิลซองที่ประเทศอื่นทั่วโลกควรเอาเป็นแบบอย่าง


วัฒนธรรมด้านวิถีชีวิต

     วิถีชีวิตของเกาหลีเหนือจะอยู่ภายใต้ลัทธิจูเช่และอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาล แม้กระทั่งบ้านหรือที่อยู่อาศัยของประชาชนในกรุงเปียงยางนั้นรัฐบาลจะเป็นคนจัดสรรให้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายและประชาชนไม่มีสิทธิที่จะมีที่ดินเป็นของตนเอง

     เกาหลีเหนือมีผลผลิตทางการเกษตรที่ค่อนข้างน้อยที่ในสองปีที่ผ่านมานี้ทางรัฐบาลได้เริ่มมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ทำให้ชาวเมืองได้รับผลผลิตมากขึ้น ระบบเก็บเกี่ยวของเกาหลีเหนือเป็นแบบ commune คือ แบ่งกันดูแลพอถึงหน้าเก็บเกี่ยวก็จะมาช่วยกันเก็บแล้วส่งข้าวไปที่กองกลาง รายงานยอดว่าเก็บได้กี่ตันๆ แล้วทางส่วนกลางค่อย แบ่งให้ทุกๆคนอย่างเท่าเทียม แน่นอนว่าคำๆนี้ ก็แล้วแต่คนจะเข้าใจ สำหรับที่นี่เท่าเทียมไม่ได้แปลว่าทุกคนเท่ากัน แต่ตามหลักการคือ ให้มากกว่าแก่คนที่ควรได้มาก ให้น้อยกว่าแก่คนที่ควรได้น้อยกว่า ในทางปฏิบัติเป็นยังไงก็อีกเรื่องนึง แต่ความหมายง่ายๆก็คือ ยิ่งเป็นข้าราชการชั้นสูง หรือรับราชการทหารก็ย่อมได้ข้าวมาก คนที่ออกแรงทำงานย่อมได้ส่วนแบ่งมากกว่าคนที่ไม่ทำงาน


ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับประเทศเกาหลีเหนือ หรือ“สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี”

  • ประชากรในเกาหลีเหนือมีอัตราการรู้หนังสือ 100% โดยข้อมูลของ CIA บอกว่า ประชากรเกาหลีเหนือตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไปทุกคน สามารถอ่านออกเขียนได้

  • มีทรงผมเพียงแค่ 28 ทรงเท่านั้น ที่สามารถตัดได้ในเกาหลีเหนือ โดยผู้หญิงจะสามารถเลือกทรงผมได้ 14 แบบ หญิงแต่งงานแล้วจะเป็นทรงผมสั้น ส่วนหญิงโสดจะไว้ผมได้ยาวกว่า ส่วนผู้ชายห้ามไว้ผมยาวเกิน 5 เซนติเมตร ส่วนชายสูงอายุไว้ได้ไม่เกิน 7 เซนติเมตร

  • เกาหลีเหนือมีกองทัพประจำการ ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก ซึ่งมีจำนวน 1.190 ล้านคน

  • เกาหลีเหนือเป็นประเทศที่มีการทุจริตมากที่สุดในโลก อยู่ดันดับร่วมกับอัฟกานิสถานและโซมาเลีย อ้างอิงตามรายงานของ CPI ปี 2013

  • คิมจองอึน มีภรรยาแล้ว ชื่อ รี ซ็อล-จู


รูปภาพที่เกี่ยวข้อง


บรรณานุกรม

https://goo.gl/Dn9fKo

http://asiancastle.net/?p=2027

https://sites.google.com/site/koreannnnnn/phasa

http://longtunman.com/5846

https://www.wegointer.com/2014/07/%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B6%E0%B9%88%E0%B8%87/

https://www.meekhao.com/news/fascinating-facts-north-korea-new

https://korea.tlcthai.com/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B7%E0%B8%AD-north-korea/



คำถามเกี่ยวกับเกาหลีเหนือ


  1. วิถีชีวิตของเกาหลีเหนือนั้นอยู่ภายใต้การควบคุมโดยใครและลัทธิใด ?

ตอบ     วิถีชีวิตของเกาหลีเหนือจะอยู่ภายใต้ลัทธิจูเช่และอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาล

  1. ปรัชญาทางการเมืองที่ท่านคิมอิลซองใช้เป็นแนวทางในการบริหารประเทศ คือ ?

ตอบ  เกาหลีเหนือจะไม่พึ่งพาประเทศอื่นและปฏิเสธระบบทุนนิยม

  1. ประชากรส่วนใหญ่มีการนับถือศาสนาหรือไม่ ? 

ตอบ ส่วนใหญ่ยินดีที่จะไม่นับถือศาสนาใด

  1. ชุดประจำชาติของเกาหลี ? 

ตอบ ชุดฮันบก

  1. คิม จอง อึน มีภรรยาคือใคร ? 

ตอบ รี ซอล จู

  1. เมืองหลวงของเกาหลีเหนือ ? 

ตอบ เปียงยาง

  1. การปกครองของเกาหลีเหนือเป็นการปกครองแบบใด ? 

ตอบ ปกครองโดยระบอบคอมมิวนิสต์

  1. ใครคือผู้ก่อตั้งเกาหลีเหนือและถูกยกย่องตลอดกาล ? 

ตอบ คิม อิล ซอง

  1. สกุลเงินของเกาหลีเหนือที่มีใช้มาจนถึงปัจจุบัน ? 

ตอบ วอน

  1. เกษตรกรรมของเกาหลีเหนือ ? 

ตอบ การผลิตข้าว

บทความที่ได้รับความนิยม